วัสดุและการเตรียมถุงเพาะชำ
สำคัญไม่แพ้กิ่งพั น ธุ์คือขั้นตอนการเตรียมวัสดุเพาะ
1.ขุยมะพร้าว
เพื่อให้รากพืชยึดเกาะแทนดิน มีคุณสมบัติ เบา อุ้มน้ำได้ดี และเก็บความชื้นไว้ได้นาน ไม่แฉะและไม่แห้งเกินไป เหมาะสำหรับการควั่นตอนกิ่งไม้ เพื่อเพาะชำต้นไม้ย่ อ ยส ล า ยได้ในอนาคตมีความเป็นด่าง
2.uี้เถ้าแกลบ
ไม่ยุบตัวเร็วเมื่อนำมาใช้งาน ไม่เกิดการสลายตัว ไม่มีสารเจือปนอยู่ ไม่เกิดปฏิกิริย ากับสารละลายธาตุอาหาร เพื่อไม่ไห้มีผลกระทบต่อประจุไฟฟ้าของธาตุอาหาร ไม่เป็นแหล่งสะสมโ s คและแ ม ล ง รากพืชสามารถแพร่กระจายได้สะดวก
มีความหนาแน่นประมาณ 0.6-0.8 กิโลกรัม/ลิตร มีความพรุนตัว 20- 30% โดยปริมาตร วัสดุมีลักษณะแข็งแรงไม่ยุบตัวเมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานาน
3.ปุ๋ยหมักใบก้ามปู
เป็นหัวเ ชื้ อปุ๋ยอย่ างดี ช่วยให้ผักหวานที่แตกกิ่งใหม่พุ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่อย่ างรวดเร็ว เมื่อปลูกลงดินจะโตไวมากเ นื่ องจากต้นพั น ธุ์สะสมอาหารไว้มาก
4.ปุ๋ยน้ำหรือน้ำหมักชี ว ภ า พ
สูตรฮ อ ร์โ ม น กระตุ้นการเติบโตของรากและกิ่งใบ
5.น้ำย าปรับความเป็นก s ดด่าง
ใช้ละลายน้ำแช่ขุยมะพร้าวและเถ้าแกลบ ทิ้งไว้1คืน
รวมทั้ง 5 อย่ างเข้าด้วยกันด้วยกันในอัตราส่วนผสมที่เหมาะสม คลุกเคล้ากันอย่ างลงตัว บรรจุลงถุงเพาะและวางเรียงให้ตรง รดน้ำให้ชื้นเตรียมปักชำต่อไป
นำกิ่งผักหวานบ้านที่เตรียมไว้เสียบลงไปตรงกลางถุงเพาะชำลึกประมาณ 1 นิ้ว ทำการรดน้ำทุกเช้า เพียง 20 วันก็ได้ผักหวานพร้อมปลูกลงดิน
การคัดเลือกต้นพันธุ์ผักหวานบ้าน
1.ต้นที่จะนำมาทำกิ่งพั น ธุ์ที่เหมาะสม ควรมีอายุมากกว่า 8 เดือน เพราะมีความสมบูรณ์พร้อม
2. เลือกกิ่งที่ไม่อ่อนเพราะกิ่งอ่อนทำให้แตกยอดได้น้อยและยอดเล็กต้องใช้เวลามากกว่า 5 เดือนจึงจะเก็บยอดจำหน่ายได้และไม่สามารถแตกกิ่งเพิ่มได้มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับกิ่งสมบูรณ์
3.เลือกกิ่งที่ไม่แก่ เพราะกิ่งแก่จะทำให้ออกดอกและติดผลเมื่อนำไปปลูก ต้นจะโตช้าเปลืองปุ๋ยเพราะสารอาหารส่วนหนึ่งไปเลี้ยงดอกและผล
การตัดกิ่งใบผักหวานบ้าน
1.ตัดต้นผักหวานบ้านมาเพื่อทำกิ่งพั น ธุ์ครั้งล่ะไม่เกิน 20 ต้นและควรตัดในช่วงบ่ายหรือเย็นเพื่อให้ต้นที่ถูกตัดได้ฟื้นตัว กรณีถูกแสงแดดจัดอาจทำให้ต้นแห้งได้หรือแตกกิ่งใหม่ช้ากว่าปกติ
2.นำมาตัดกิ่งใบออกตัดส่วนปลายที่มีขนาดเล็กทิ้งเพราะเป็นกิ่งอ่อนหรือแคระปลูกแล้วจะโตได้ช้ามาก
3.คัดเลือกกิ่งพั น ธุ์ที่ไม่มีเ ชื้ อของแมลงปากดูดหรือมีเ ชื้ อราออกกรณีที่กิ่งพั น ธุ์ติดเ ชื้ อมาจะเพาะชำไม่ขึ้นหรือเพาะขึ้นแต่เ ชื้ อราจะลามลงมาถึงโคนต้นจะไม่รอดในที่สุด
การตัดกิ่งพั น ธุ์ผักหวานบ้าน
เมื่อได้กิ่งพั น ธุ์ที่สมบูรณ์มาแล้วทำการวัดระยะความย าวให้ได้ 6นิ้ว แล้วตัดเฉียงเพื่อง่ายต่อการปักชำและเป็นการเพิ่มพื้นที่ของเ uื้อ อเ ยื่ อในการงอกรากใหม่ ทำไมต้องตัดที่ความย าว 6 นิ้ว เนื่องจากเราต้องปักชำลงไปในถุงเพาะลึก1 นิ้ว ส่วนที่เหลืออีก 5 นิ้วสำหรับการแตกกิ่งใหม่
ซึ่งจะมีโอกาสแตกกิ่งได้มากกว่าขนาดอื่นๆ การตัดปลายต้องให้เลยกิ่งตาเสมอเ นื่ องจากยอดใหม่จะแตกออกมาจากกิ่งตา การนำผักหวานบ้านเพาะชำลงหลุมปลูกต้องฝังให้ลึก เพราะเมื่อผักหวานโตขึ้นเป็นทรงพุ่มใหญ่เมื่อโดนลมหรือน้ำฝนก็จะไม่เอียงหรือล้มได้
การแช่น้ำย ากันเ ชื้ อรา
นำกิ่งผักหวานที่ตัดแล้วแช่ในน้ำย ากันเ ชื้ อรา โดยผสมอัตราส่วนตามฉลากที่ผู้ผลิตระบุ แช่ให้ทั่วทั้งกิ่งโดยเฉพาะรอยตัด นำออกมาผึ่งลมให้แห้งเท่านี้ก็ได้กิ่งพั น ธุ์ผักหวานบ้านที่พร้อมจะปลูกลงดินหรือลงถุงเพาะชำต่อไป
การแช่น้ำย าเร่งราก
นำกิ่งผักหวานที่ตัดแล้วมามัดรวมกันเพื่อไม่ให้กิ่งเอียงขณะแช่น้ำย าเร่ง ในการแช่น้ำย าเร่งรากให้ผสมน้ำตามอัตราส่วนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
น้ำย าเร่งรากบางชนิดอาจมีความเข็มข้น เ ยื่ อของผักหวานบ้านนั้นอ่อน กรณีที่จุ่มโดยตรงอาจเป็นผลเสียได้ นำออกมาผึ่งลมให้แห้งเท่านี้ก็ได้กิ่งพั น ธุ์ผักหวานบ้านที่พร้อมจะปลูกลงดินหรือลงถุงเพาะชำต่อไป
การเตรียมวัสดุเพาะชำ ปุ๋ยน้ำ
ขั้นตอนการเตรียมวัสดุเพาะชำให้นำน้ำสะอาดผสมกับน้ำย าปรับสภาพความเป็นก s ดด่าง ทิ้งไว้1ชั่วโมงจากนั้นผสมปุ๋ยน้ำลงไปคนให้เข้ากันทิ้งไว้1คืน
เ นื่ องจากน้ำที่เรานำมาอาจมีค่าความเป็นก s ดด่างแตกต่างกันออกไปส่วนปุ๋ยน้ำนั้นเป็นอาหารของผักหวานต่อไปก่อนลงดินที่สำคัญปุ๋ยน้ำจะช่วยให้ผักวานบ้านงอกรากและแตกกิ่งใบอย่ างรวดเร็วและแข็งแรง
การแช่ขุยมะพร้าวกับปุ๋ยน้ำ
วัสดุที่สำคัญในการเพาะชำผักหวานบ้านคือขุยมะพร้าว ขุยมะพร้าวที่นำมาใช้ควรเป็นขุยมะพร้าวเก่าเนื่องจากขุยมะพร้าวใหม่จะมีความเป็นด่างจัดไม่เหมาะสมที่จะเป็นวัสดุเพาะชำ
นำขุยมะพร้าวมาแช่ในปุ๋ยน้ำที่เตรียมไว้แล้วโดยคลุกเคล้าให้ทั่วจากนั้นทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้ขุยมะพร้าวดูดปุ๋ยน้ำมาเก็บไว้ที่ตัวเองเพื่อเป็นอาหารของกิ่งผักหวานบ้านต่อไป
การผสมขุยมะพร้าวกับเถ้าแกลบ
1.ควรเลือกใช้เถ้าแกลบเก่าหรือให้นำเถ้าแกลบใหม่มาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อล้างด่างออกจากเถ้าแกลบ จากนั้นให้ผสมเข้ากับขุยมะพร้าวที่ผ่านการแช่ปุ๋ยน้ำมาแล้วผสมให้เข้ากันในอัตราส่วน 1:1 ให้ได้ความชื้นที่ 60 เปอร์เซนต์
2.ผสม ขุยมะพร้าว+เถ้าแกลบ+ปุ๋ยหมักใบก้ามปู
3.สุดท้ายก็นำปุ๋ยหมักใบก้ามปูผสมลงไปในอัตราส่วน 1:1 ผสมให้เข้ากันเตรียมบรรจุลงถุงเพาะต่อไป
การบรรจุวัสดุเพาะลงถุงเพาะชำ
นำขุยมะพร้าวที่ผสมกับเถ้าแกลบและปุ๋ยหมักใบก้ามปูลงถุงเพาะชำ โดยบรรจุให้แน่นหรือกดให้แน่นเพื่อป้องกันกิ่งชำเอียงและจะทำให้วัสดุเพาะสัมผัสกับเ นื้ อเ ยื่ อ
ได้มากขึ้นช่วยให้กิ่งผักหวานบ้านแตกรากเร็วขึ้น การบรรจุนั้นไม่ต้องใส่จนล้นแต่ให้มีระยะปลายถุงเหลือเอาไว้เพื่อที่จะรับน้ำเวลารดน้ำถุงเพาะชำ ไม่ต้องก ลั วน้ำขังหรือเปียก
เพราะถุงเพะชำมีรูระบายอยู่แล้วและผักหวานบ้านเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูง แต่อย่ าให้น้ำจนขังถุงเพาะ กิ่งผักหวานอาจเ u่ าได้เพราะเ นื้ อเ ยื่ อค่อนข้างอ่อน
การปักชำกิ่งผักหวานบ้าน
นำกิ่งผักหวานบ้านที่ผ่านการจุ่มน้ำย าเร่งรากมาปักลงตรงๆ ความลึกประมาณ1นิ้ว แปลงเพาะชำพื้นควรโรยด้วยเถ้าแกลบคงามหนาประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อเก็บความชื้นไว้ในแปลงเพาะชำและช่วยในการกระต้นให้รากผักหวานบ้านเดินลงมาด้านล่างถุงสามารถทะลุรูของถุงลงสู่พื้นได้ทำให้รากยาวและมีจำนวนมากเมื่อปลูกลงดินจะเติบโตได้รวดเร็ว
แปลงเพาะชำ
แปลงเพาะชำมีการคลุมด้วยตาข่ายเพื่อกันแมลงเข้ามารบกวนในแปลงเพาะชำ ด้านบนมุงด้วยสแลนมีช่องว่างให้แสงแดดผ่านได้บ้างความร้อนจากแสงแแดดช่วยให้แปลงเพาะชำที่มีความชื้นเกิดสภาพร้อนชื้นช่วยกระต้นในการแตกกิ่งตาของผักหวานบ้าน
ด้านข้างปิดล้อมด้วยสแลนเช่นกันเพื่อป้องกันแสงแดดที่ร้อนจัดและลมแรงซึ่งจะทำให้กิ่งผักหวานเสียน้ำเร็วเกินไป ระบบสเปร์ยน้ำควรเป็นผอยละอองและไม่รดน้ำจนเปียกโชกเพราะจะทำให้โคนกิ่งเ u่ าได้
ในแปลงเพาะจะต้องมีความชื้นที่ 65-75% เมื่ออากาศร้อนจัดอาจมีการรดน้ำที่สแลนและตาข่ายเพื่อให้เกิดละอองน้ำเมื่อลมพัดผ่านอุณหภูมิในแปลงเพาะจะลดลง
การปักชำกิ่งผักหวานบ้าน
เมื่อผ่านไป4วันจะเห็นยอดแตกขึ้นมาจากกิ่งพั น ธุ์ ถ้ากิ่งพั น ธุ์สมบูรณ์จะแตกกิ่งออกมาหลายกิ่ง เมื่อนำลงปลูกในแปลงปลูกจะโตเป็นพุ่มใหญ่สามารถเก็บยอดจำหน่ายคืนทุนและทำเงินได้เร็ว
ถ้ากิ่งพั น ธุ์ไม่สมบูรณ์ จะใช้เวลานานกว่านี้และจะแตกกิ่งตาเพียง1กิ่งเมื่อนำปลูกลงแปลงก็จะต้องใช้เวลานานกว่าผักหวานบ้านจะกลายเป็นทรงพุ่ม
เ นื่ องจากผักหวานบ้านจะแตกยอดใหม่หลังจากตัดยอดเดิมแล้วมากกว่า2กิ่งเสมอ กรณีอากาศหนาวเย็นผักหวานบ้านจะแตกกิ่งได้ช้ากว่า
ตุ่มรากของกิ่งผักหวานบ้าน อายุ 7 วัน
หลังปักชำกิ่งผักหวานบ้านได้ 7วัน ด้วยความสมบูรณ์และสารอาหารที่สำสมอยู่ในกิ่งพั น ธุ์ จะปรากฎตุ่มขึ้นบริเวณส่วนที่ฝังลงไปในถุงเพาะชำ ปลายตุ่มจะเป็นสีขาวและมีปริมาณมาก นั้นคือรากของผักหวานบ้านนั้นเอง
รากของกิ่งผักหวานบ้าน อายุ 14 วัน
เมื่อผ่านไป 14 วันหลังปักชำรากของกิ่งผักหวานบ้านจะแผ่ออกมาจากตุ่มรากเป็นสีขาวใหญ่ปลายแหลม แสดงให้เห็นว่าวัสดุเพาะชำนั้นสำคัญมาก เพราะจะทำให้ผักหวานบ้านเติมโตได้เร็วมีความแข็งแรงสมบูรณ์ของกิ่งและใบ สามารถต้านทานเ ชื้ อราและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ดี
การสังเกตความสมบูณ์ของต้นผักหวานพร้อมปลูก
รากของต้นผักหวานที่ผ่านการเพาะชำและพร้อมปลูก ต้องมีขนาดใหญ่ เป็นเส้นสีขาวมีรากฝอยขนาดเล็กฟูเกาะรากมาก รากต้องเดินเป็นแพจากด้านบนลงด้านล่างของถุง
กรณีรากเป็นสีน้ำตาลเป็นเส้นเล็กและย าวจำนวนมาก แสดงว่าขาดสารอาหารและมีอายุการเพาะนานเกินไปไม่เหมาะแก่การปลูกลงดิน แต่ก็สามารถปลูกขึ้นได้
แหล่งที่มา http://pakwanpan.circlecamp.com/index.php?page=cultivate